วันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

CPU Computer(อุปกรณ์)

         สำหรับซีพียู Core i7 ที่ทางอินเทลได้ส่งมาให้ทดสอบนั้นให้มาแบบครบเซ็ตเลยมีทั้ง ซีพียู เมนบอร์ด แรม ฮาร์ดดิสก์และฮีตซิงค์ซีพียู

Core i7 ทางอินเทลส่งมาให้ครบเซ็ตเลย (การ์ดจอไม่เกี่ยวนะ อิอิ)
          เริ่มจากซีพียูพระเอกของงานนี้เป็น Intel Core i7 920 2.66GHz (มีโค้ดเน้มว่า Bloomfield) ซึ่งเป็นรุ่นเล็กสุดของซีรี่ย์ Core i7 มี bus speed 133 และตัวคูณสูงสุดที่ 20 ค่านี้เป็นที่มาของความเร็วซีพียูรุ่นใหม่นี้ครับ (133 x 20 = 2.66GHz) ส่วนความเร็วของ QPI อยู่ที่ 4.8GT/s

เมนบอร์ดซิพเซ็ต Intel X58 ตัวนี้มีชื่อบอร์ดว่า Intel DX58SO
  
[ซ้าย] socket ตัวใหม่ล่าสุด LGA1366 ขนาดใหญ่ขึ้นกว่า LGA775 มากทีเดียว
[ขวา] แรมต้องใส่ 3 แถวถึงเพื่อรองรับระบบ Tri - Channel
  
[ซ้าย] ฮีตท์ซิงค์ชิพเซ็ตมีพัดลมระบายความร้อนซะด้วย (ตอนทำงานมีไฟสีฟ้าด้วย)
[ขวา] มีสล็อต PCI-Express x16 2 ช่องแต่รองรับเฉพาะ CrossFire

          ทางด้านเมนบอร์ดเป็น Intel DX58SO ใช้ชิพเซ็ตรุ่นใหม่ล่าสุด Intel X58 ที่ใช้ socket LGA1366 รองรับ PCI – Express 2.0 ที่ความเร็ว 16x จำนวน 2 สล็อต ซึ่งรองรับการต่อการจอคู่กับ ATI CrossFire เท่านั้น ส่วนการรองรับ SLI นั้นทางอินได้ให้ข้อมูลว่ารองรับได้แต่ต้องให้ผู้ผลิตเมนบอร์ดเจ้าอื่นๆ อย่างเช่น ASUS GIGABYTE หรือเจ้าอื่นๆ ทำการซื้อลิขสิทธิ์จาก NVIDIA เอง
          แรมให้มาทั้งหมดสามแถวด้วยกันเพื่อรองรับ Tri – Channel จากยี่ห้อ Qimonda เป็น DDR3 ความเร็ว 1066MHz CL 7-7-7-20 มีความจุแถวละ 1GB เป็นแรมเปลื่อยๆ ไม่มีฮีตซิงค์แปะมาด้วยแต่อย่างใด
          ที่พิเศษคือได้ให้ฮาร์ดดิสก์แบบ Solid State Drive (SSD) มาด้วย เป็นยี่ห้ออินเทลมีความจุ 80 GB ขนาดเล็กเท่ากับฮาร์ดดิสก์โน้ตบุ๊ค 2.5 นิ้ว อินเตอร์เฟส SATA และสุดท้ายในกล่องที่ให้มาก็คือฮีตท์ซิงค์ซีพียูจาก Thermalright รุ่น Ultra 120 Extreme – 1366 เป็นรุ่นที่ออกมารองรับซีพียู socket LGA1366 โดยเฉพาะ เป็นฮีตซิงค์ขนาดใหญ่มีฮีตท์ไปป์ 6 ท่อ พร้อมกับพัดลมขนาดยักษ์ถึง 14 เซนติเมตร ส่วนกราฟิการ์ดที่ใช้ร่วมทดสอบด้วยจะเป็นการ์ดจาก XFX GTX260 Black Edition ระบบปฏิบัติการที่ใช้ยังคงเป็น Windows XP SP2 อยู่เพื่อที่จะได้รีดพลังในการเล่นเกมออกมาได้เต็มประสิทธิภาพกว่า Vista อึดๆ
ไม่พูดพรำทำเพลง ทดสอบกันเลย!!

บรรยากาศระหว่างการทดสอบครับ
  
[ซ้าย] cpuz แสดงรายละเอียดซีพียู Intel Core i7 920 2.66GHz
[ขวา] cpuz แสดงรายละเอียดซีพียู Intel Core 2 Extreme QX9770 3.20GHz

          ในการทดสอบเราได้เทสเปรียบเทียบซีพียูที่แรงที่สุดในตระกูล Core 2 คือตัว Core 2 Extreme QX9770 3.2GHz โดยใช้เมนบอร์ด XFX ชิพ nForce 780i แรม DDR2 800MHz 2GB ส่วนการ์ดจอเป็นตัวเดียวกันครับ มาเริ่มทดสอบด้วยโปรแกรมแบนช์มาร์กพื้นฐาน 3DMark06 ในชุด Core i7 ได้คะแนนรวมไปที่ 16,374 แต้ม ส่วนชุด QX9770 นั้นได้น้อยกว่าเล็กน้อยที่ 16,319 แต้ม ถ้าดูถึงคะแนนไม่เห็นถึงแตกต่างกันแต่อย่าลืมว่า Core i7 920 นั้นมีความเร็วสัญาณนาฬิกาต่ำกว่า QX9770 ถึง 540MHz มาดูคะแนนในส่วน 3DMark CPU Score ที่เน้นทดสอบเฉพาะซีพียูอย่างเดียว โดย Core i7 ได้ 5,383 แต้ม QX9770 ได้ 4,816 แต้ม ซึ่งในส่วนนี้เห็นความแตกต่างได้ว่าแพลตฟอร์ม Core i7 (Nehalem) นั้นแรงกว่า Core 2 สถาปัตยกรรม 45 นาโนเมตร (Penryn) ไปอีกระดับหนึ่ง
          มาทดสอบเล่นเกมกันดีกว่า จะได้รู้กันไปเลยว่า Core i7 จะช่วยเพิ่มปริมาณเฟรมเรตได้ดีเพียงไร เริ่มกันกับเกมกินทรัพยากรสุดโหด Crysis บอกได้เลยว่าในเกมนี้ไม่เห็นถึงความแตกต่างของเฟรมเรตเลย Core i7 ได้เฟรมเรตเฉลี่ย 33.15 fps ส่วน QX9770 ได้มากกว่าเล็กน้อยที่ 34.52 fps ที่เป็นเช่นนี้ก็คือเกมนี้ใช้แรงประมวลจากกราฟิกการ์ดเป็นหลัก ใช้แรงซีพียูไม่มากเพียง 3 คอร์ เท่านั้น (เปิดดูใน Task Manager) เรียกว่าตันที่การ์ดจอครับ

Crysis ใช้แรงประมวลผลซีพียูเพียง 1 คอร์กับอีกครึ่งคอร์นิดๆ เอง

Farcry2 ใช้แรงประมวลผลซีพียู 4 คอร์

Lost Planet ใช้แรงประมวลผลซีพียูได้อย่างเต็มที่ครบทั้ง 8 คอร์

          สำหรับเกมที่รองรับซีพียู 8 คอร์ ตอนนี้คือ Lost Planet ถึงแม้เกมจะเก่าแล้วแต่เอนจิ้นทำออกมาได้ดีมากใช้พลังของคอร์ทั้ง 8 คอร์ (4 คอร์แท้บวกกับ 4 คอร์เทียมของ Hyper - Threading) ของ Core i7 อย่างเต็มที่ มาดูผลทดสอบกันในฉาก cave ที่เน้นแรงประมวลผลของซีพียูในการคำนวน Ai เป็นหลักนั้น Core i7 ได้เฟรมเรตเฉลี่ยที่ 84 fps ส่วน QX9770 ได้ไปเพียง 66.1 fps ต่างกันเกือบ 20 เฟรม เห็นได้ว่าเกมที่รองรับซีพียูแบบมัลติคอร์จะแสดงถึงความแตกต่างของสถาปัตยกรรมเก่าและใหม่ได้อย่างดี
ความเร็วของฮาร์ดดิสก์ SSD นั้นเป็นอีกเรื่องที่ขอบอกต่อว่ามันเร็วเอามากๆ เห็นผลได้ชัดที่สุดคือตอนโหลดเข้าเกมต่างๆ นั้นเร็วขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัดเจน อย่าง Crysis ตอนโหลดเข้าฉากแต่ละฉากนั้นถ้าเป็นฮาร์ดดิสก์ธรรดาจะใช้เวลานานพอสมควร แต่พอใช้ SSD นั้นเร็วขึ้นแบบเท่าตัวเลย
ลองโอเวอร์คล็อกซะหน่อย
          เพื่อที่จะได้เห็นความแตกต่างของซีพียูตระกูล Core i7 และ Core 2 ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เราได้นำ Core i7 920 มาโอเวอร์คล็อกไปที่ 3.2GHz ให้เท่ากับ QX9770 โดยใน 3DMark06 ได้เพิ่มไปถึง 18594 คะแนน มากกว่า QX9770 ที่มีสัญญาณนาฬิกาเท่ากันถึง 2400 แต้ม ยิ่งถ้าเป็น CPU Score Core i7 ฉีกคะแนนทิ้งห่างมากกว่าเดิมเป็น 6127 แต้ม จากเดิมที่ 5385 แต้ม ส่วน QX9770 ได้เพียง 4816 แต้ม ส่วนเกมอื่นๆ เห็นผลจากการโอเวอร์คล็อกเล็กน้อยเพียง 1 – 2 เฟรมเท่านั้น
สรุปส่งท้าย
          จากการทดสอบที่ได้เห็นกันไปนั้นความแรงของ Core i7 นั้นเห็นผลได้ชัดเจนมากๆ กับเกมที่รองรับซีพียูแบบมัลติคอร์ ส่วนเกมที่ไม่รองรับซีพียู Quad – Core หรือมากกว่านั้นแทบจะไม่เห็นความแตกตต่างของคะแนนเลย แต่อย่าลืมว่าการที่เกมๆ หนึ่งจะเล่นได้อย่างลื่นไหลเฟรมเรตพุ่งกระจายนั้นต้องไม่ได้ว่าจากซีพียูเป็นหลักเพียงอย่างเดียว ซึ่งเกมในปัจจุบันเน้นการประมวลผลกราฟิกการ์ดเป็นส่วนใหญ่ครับ แต่ในอนาคตถ้ามีเกมที่รองรับการใช้งานซีพียูหลายๆ คอร์อย่างเต็มที่ละก็ Core i7 จะแสดงประสิทธิภาพได้ดีกว่านี้แน่นอน ซึ่ง Lost Planet เป็นตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนมาก ส่วนฮาร์ดดิสก์ SSD นั้นมีความเร็วที่เหนือกว่าฮาร์ดดิสก์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมากทีเดียว
          สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากลองความแรงของซีพียูระดับ Next – Gen อย่าง Core i7 นี้นั้นสามารถหาซื้อมาเล่นกันได้แล้ว มีว่างขายอยู่ 2 รุ่น คือตัว Core i7 920 2.66GHz ราคาอยู่ที่ 11,900 บาท และตัว Core i7 940 2.8GHz อยู่ที่ 22,800 บาท ส่วนเมนบอร์ด X58 ปัจจุบันจะมีของ ASUS รุ่น P6T Deluxe อยู่รุ่นเดียวสนนราคาอยู่ที่ 13,500 บาท ครับ

ขอขอบคุณบริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กโทรนิกส์ (ประเทศไทย)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น