วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2557

ปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 10 อย่าควรรู้เมื่อเกิดปัญหากับ Windows
พิมพ์
อีเมล์

1. ปิดเครื่องแล้วเปิดใหม่
         หนี่งในวิธีแก้ปัญหาที่ง่ายและมักจะได้ผลเสมอ คือการ Restart เครื่อง หรือเปิดเครื่องแล้วเปิดใหม่เพราะระบบปฏิบัติการ Windows เมื่อทำงานได้สักระยะหนึ่งมันอาจจะสับสนอะไรบ้างอย่างในตัวของมันเองทำให้มันแสดงพฤติกรรมแปลกที่ทำให้ผู้ใช้งานเกิดปัญหาได้


2. 
เปิดเข้าไปดูที่ Action Center (เฉพาะ Windows 7 เท่านั้น)
         ผู้พัฒนา Windows คงทราบดีว่า Windows นั้นมีปัญหามากมายที่แก้ไขเท่าไหร่ก็ไม่จบ ดังนั้นในWindows 7 ซึ่งเป็น Windows เวอร์ชันใหม่ล่าสุด ทางผู้ัพัฒนาจึงได้คิดค้นระบบที่จะมาช่วยให้ผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ จัดการกับปัญหาของ Windows ได้ง่ายขึ้นระบบที่ว่านี้ก็คือ ActionCenter ที่มีอยู่ใน Windows 7 นั่นเอง


         
        
 ในหน้าต่างของ Action Center ให้คุณลองคลิกที่ปุ่ม Troubleshooting เมื่อคลิกแล้วระบบจะทำการค้นหาวิธีแก้ไขปัญหาที่คุณกำลังเจออยู่ให้อัตโนมัติและถ้าหากเป็นปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้อัตโนมัติระบบก็จะขึ้นข้อความแนะนำ เพื่อให้คุณทราบว่าควรจะทำอะไรต่อไป

3. 
ลองอัพเดต Windows ดู
         ปัญหาที่คุณเจอ อาจจะเป็นปัญหาที่ไมโครซอฟต์บริษัทผู้ผลิต Windows ทราบอยู่แล้ว และได้สร้างตัวแก้ไขมาให้คุณไว้เรียบร้อยแล้วหน้าที่ของคุณคือคุณจะต้องเอาตัวแก้ไขเหล่านั้นมาติดตั้งใน Windows ของคุณเพื่อตัดตอนปัญหาต่างๆที่คุณเจอ ระบบที่จะช่วยให้คุณอัพเดต Windows ได้อย่างง่ายๆ มีชื่อว่า Microsoft Windows Update ซึ่งในกระบวนการอัพเดตคุณจำเป็นจะต้องต่ออินเทอร์เน็ตเอาไว้ด้วยเพื่อให้ระบบอัพเดตสามารถดาวโหลดตัวแก้ไขต่างๆจากเว็บไซต์ของไมโครซอฟต์ได้



4. 
ลงไดรเวอร์ใหม่หนึ่ง
            ในวิธีที่จัดการกับปัญหาเรื่องไดร์เวอร์และฮาร์ดแวร์ได้ชะงักคือการติดตั้งไดรเวอร์ตัวใหม่ล่าสุดหรือถ้าไม่สามารถหาไดรเวอร์ตัวใหม่ล่าสุดได้ ก็ได้เอาไดรเวอร์ตัวเดิมนั่นแหล่ะติดตั้งกลับเข้าไปใหม่อีกครั้งนึงเพียงเท่านี้ก็จะสามารถช่วยแก้ปัญหาของคุณได้อย่างได้ผลเลยทีเดียว


         
        
 วิธีการลงไดรเวอร์ตัวใหม่คุณต้องเข้าไปที่ Device Manager ก่อนแล้วทำคลิกขวาเลือกฮาร์ดแวร์ที่คุณต้องการจะจัดการแก้ปัญหาจากนั้นก็ให้คลิกเลือก Update Driver สำหรับการติดตั้งไดรเวอร์ตัวใหม่ล่าสุดหรือคลิกเลือก Uninstall เพื่อลบไดรเวอร์ที่ค้างอยู่ในระบบแล้วค่อยเอาไดร์เวอร์ที่คุณมีติดตั้งเข้า ไปใหม่อีกครั้งหนึ่ง

5. 
ทำความสะอาดเครื่อง
          ลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นด้วย Disk Cleanupหนึ่ง ในตัวสร้างปัญหาให้กับ Windows คือการที่มีไฟล์ขยะรกเต็มเครื่องมากเิกินไป ดังนั้นการลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นทิ้งเสียบ้างจะช่วยลดและป้องกันปัญหาได้ ซึ่งใน Windows ก็มีเครื่องมือสำหรับช่วยลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นออกจากเครื่องได้อย่างอัตโนมัติเครื่องมือที่ว่าก็คือ Disk Cleanup นั่นเอง



6. 
ใช้โปรแกรมตรวจสอบไฟล์ระบบ
         หนึ่งในอาการที่สร้างปัญหาน่าปวดหัวใน Windows คืออาการไฟล์ระบบเสีย แต่โชคดีที่ Windows มีตัวสำหรับแก้ไขและซ่อมไฟล์ระบบมาให้ด้วยแต่โปรแกรมนี้จะต้องใช้งานในแบบ Command line เท่านั้น วิธีใช้ก็แค่เปิดหน้าต่าง Command โดยพิมพ์คำสั่ง cmd ลงในช่อง Run แล้วตามด้วยคำสั่ง "SFC /SCANNOW" (คำสั่งไม่ต้องมีเครื่องหมาย " นะครับ) สำหรับผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Vista และ Windows 7 ต้องเลือกเปิดหน้าต่าาง Command ด้วนสิทธิแบบ Administrator ก่อนถึงใช้คำสั่งนี้ได้



7. 
ลงโปรแกรมใหม่
         ถ้าปัญหาใน Windows ของคุณเกี่ยวข้องกับโปรแกรมที่คุณติดตั้งเข้าไปล่ะก็มีวิธีหนึ่งที่สามารถใช้แก้ไขปัญหาได้อย่างชะงัก คือการลบและติดตั้งโปรแกรมใหม่ วิธีทำก็ไม่ยากแค่ Uninstall โปรแกรมออกก่อน โดยคลิกUninstall ในเมนูของโปรแกรม หรือใช้ Add/Remove Programs ใน Control Panel ก็ได้ หลังจากลบโปรแกรมทิ้งไปแล้วก็ให้เริ่มติดตั้งโปรแกรมใหม่อีกครั้ง เท่านั้นปัญหาของโปรแกรมของคุณน่าจะได้รับการแก้ไขและตัวโปรแกรมก็จะกลับมาใช้งานได้ดีดังเดิม



8. 
เข้าเว็บ Microsoft Fix-it
         สำหรับปัญหาที่แก้ไม่ได้ง่ายๆ อย่างหน้าต่าง error ที่ขึ้นโค้ดประหลาดๆ (เช่น 0×80072EE4) คุณสามารถหาทางแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ โดยเข้าไปขอความช่วยเหลือจากไมโครซอฟต์ที่เว็บ Microsoft Fix-it (http://support.microsoft.com/gp/cp_fixit_main) ในหน้าเว็บไซต์คุณสามารถเอาโค้ด error ไปค้นหาวิธีแก้ไขได้หรือถ้าหมดหนทางจริง ๆ คุณก็ยังสามารถติดต่อกับไมโครซอฟต์เพื่อคำแนะนำได้อีกด้วย



9. 
ค้นหาความช่วยเหลือจาก Google
         เมื่อไมโครซอฟต์เริ่มพึ่งไม่ได้ เราคงต้องหันมาพึ่งตัวเองด้วยบริการค้นหาทันใจแบบทุกซอกทุกมุมจากGoogle ให้คุณลองใช้คำค้นที่สั้นและเฉพาะเจาะจงกับปัญหาที่คุณเจอ ถ้าจะให้ดีควรเลือกใช้คำค้นเป็นภาษาอังกฤษจะทำให้คุณได้ผลลัพธ์ที่มากกว่า แต่ถ้าหากคุณเป็นนักค้นหาที่ไม่ค่อยเก่งและยังไม่เก่งภาษาอังกฤษอีกด้วย เราแนะนำให้ข้ามวิธีนี้ไปเลย

10. 
แก้ไม่ได้ จนปัญญา ให้ลองลง Windows ใหม่ดู
         วิธีสุดคลาสสิกที่แก้ไขปัญหาได้เกือบทุกอย่างคือการติดตั้ง Windows ใหม่ สำหรับวิธีนี้คุณยังมีทางให้เลือก 3 ทางคือ
         - ลง Windows แบบแก้ปัญหาตัวเดิม(หรือที่เรียกว่าลงแบบ Repair)
         - ลง Windows แบบทับตัวเดิม (หรือที่เรียกว่าลงแบบ Upgrade) ซึ่งวิธีนี้จะใช้ได้กับแผ่นติดตั้ง Windowsบางแบบบางรุ่นเท่านั้น ถ้าใส่แผ่น Windows เข้าไปในเครื่องของคุณในขณะใช้ Windows ตัวเดิมอยู่ แล้วตัวติดตั้งมันขึ้น Option ให้เลือกแบบ Upgrade แสดงว่าใช้วิธีนี้ได้
         - ลง Windows แบบล้างเครื่องลงใหม่ วิธีนี้ค่อนข้างจะโหดร้าย ยุ่งยากและอาจทำให้ข้อมูลในเครื่องของคุณหายได้ (ถ้าคุณไม่ได้สำรองข้อมูลเอาไว้ก่อน) แต่ก็จัดเป็นวิธีที่ได้ผลเป็นที่สุดใครลองวิธีไหนแล้วไม่หายให้ลองวิธีนี้ดูรับประกันผลว่า Windows ของคุณจะกลับมาโลดเล่นเหมือนตอนซื้อเครื่องมาใหม่แน่นอน

 ขอบคุณข้อมูลจาก...www.windows7news.com,http://www.dol.go.th/it/index.php?option=com_content&task=view&id=172


วันที่ พุธ พฤศจิกายน 2550




สรุปอาการเสียและการแก้ไขปัญหายอดฮิตของคอมพิวเตอร์


สรุปอาการเสียและการแก้ไขปัญหายอดฮิตของคอมพิวเตอร์   Kiss

      อาการเสียของคอมพิวเตอร์นั้นมีหลายสาเหตุ สามารถวิเคราะห์อาการเสียเบื้องต้นได้ดังนี้
อาการ บูตเครื่องขึ้นมาแล้ว ทุกอย่างไม่ทำงานและเงียบสนิท
      ให้ตรวจสอบที่พัดลมด้านท้ายเครื่องว่าหมุนหรือไม่ หากไม่หมุนอาจเป็นไปได้ว่าปลั๊กไฟเสีย หรืออาจขาดใน และให้เข้าไปเช็คที่ฟิวส์ของเพาเวอร์ซัพพลาย หากฟิวส์ขาดให้ซื้อฟิวส์รุ่นเดียวกันมาเปลี่ยน แต่ถ้าเพาเวอร์ซัพพลายเสีย ควรแนะนำลูกค้าให้เปลี่ยนเพาเวอร์ซัพพลายใหม่

อาการ บูตเครื่องแล้วจอมืด แต่ไฟ LED หน้าจอและไฟเคสติด    
ให้ตรวจสอบที่ปุ่มการปรับสีและแสงที่หน้าจอก่อน จากนั้นจึงเช็คในส่วนของขั้วสายไฟ และขั้วสายสัญญาณระหว่างเคสและจอภาพ หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะเสียบการ์ดจอไม่แน่นหากตรวจเช็คอาการเหล่านี้แล้ว ทุกอย่างเป็นปกติดีสาเหตุน่าจะเกิดจากการ์ดแสดงผล และจอภาพ ให้นำอุปกรณ์ทั้ง 2 ตัวไปลองกับอีก เครื่องหนึ่งที่ทำงานเป็นปกติ หากการ์ดแสดงผลเสียต้องส่งเคลมหรือให้ลูกค้าเปลี่ยนใหม่ แต่ถ้าเป็นจอภาพ ให้ตรวจเช็คอาการอีกครั้ง ถ้าซ่อมได้ก็ควรซ่อม

อาการ บูตเครื่องแล้วมีไฟที่หน้าเคสและไฟฟล็อบปี้ไดรฟ์ แต่จอมืดและทุกอย่างเงียบสนิท
      ให้ตรวจสอบที่การเชื่อมต่อระหว่างขั้วต่อสายไฟของเพาเวอร์ซัพพลายกับเมนบอร์ดถูกต้องหรือไม่ หลุดหลวมหรือเปล่าตรวจสอบสายแพที่เชื่อมต่อกับขั้วต่อ IDE ของฮาร์ดดิสก์, ฟล็อบปี้ดิสก์ และซีดีรอม ถูกต้องหรือไม่ หลุดหลวมหรือไม่
ตรวจสอบการติดตั้งซีพียูว่าใส่ด้านถูกหรือไม่ ซีพียูเสียหรือไม่
ตรวจสอบจัมเปอร์หรือดิปสวิทช์ และการเข้าไปเปลี่ยนแปลงค่าในไบออสว่ามีการกำหนดค่าที่ถูกต้องหรือไม่ โดยเฉพาะค่าแรงดันไฟ Vcore



อาการ ที่จอภาพแสดงข้อความผิดพลาดว่า HDD FAILURE
ตรวจสอบการตั้งค่าในไบออสว่าถูกต้องหรือไม่
ตรวจสอบขั้วต่อ IDE ว่ามีการเสียบผิดด้านหรือไม่ หลุดหลวมหรือเปล่า
ตรวจสอบฮาร์ดดิสก์ว่าเสียหรือไม่ โดยเข้าไปในเมนูไบออส และใช้หัวข้อ IDE HDD Auto Detection ตรวจหาฮาร์ดดิสก์ ถ้าไม่เจอแสดงว่าฮาร์ดดิสก์มีปัญหาแต่หากเจอแสดงว่าฮาร์ดดิสก์ปกติดี

อาการ เมื่อบูตเครื่องขึ้นมาแล้วมีสัญญาณเตือนดัง บี๊บ...........บี๊บ        ควรตรวจสอบแรมว่าทำงานเป็นปกติหรือไม่ ติดตั้งดีแล้วหรือยัง วิธีแก้ไขให้ถอดแล้วเสียบใหม่
ตรวจสอบการติดตั้งการ์ดต่างๆ บนเมนบอร์ดว่าติดตั้งดีแล้วหรือยัง วิธีแก้ไขให้ถอดแล้วเสียบใหม่ ตรวจสอบซีพียูและการเซ็ตจัมเปอร์ว่าถูกต้องหรือไม่วิธีแก้ไขเซ็ตจัมเปอร์ใหม่โดยตรวจเช็คจากคู่มือเมนบอร์
ขอบคุณข้อมูลจาก...http://www.oknation.net/blog/print.php?id=149491
เสียงเตือนจาก BIOS , เสียงบี๊บ Beep Code มีความหมายอย่างไร ?
ส่วนบนของฟอร์ม

ไอที

เสียงเตือนจาก BIOS , เสียงบี๊บ Beep Code มีความหมายอย่างไร

« เมื่อ: 20, 09 2008, 10:30:46 AM »
ตารางแสดงรหัสเสียงที่พบบ่อยครั้งของไบออส Award
เสียง
ความหมาย
เสียงบี๊บสั้นๆ 1 ครั้ง 
(Beep)
เครื่องทำงานปกติดี , POST ผ่าน
เสียงบี๊บสั้นๆ 2 ครั้ง /
(Beep Beep)
เครื่องทำงานผิดปกติ , POST ไม่ผ่าน
เสียงบี๊บสั้นๆ หลายครั้งอย่างต่อเนื่อง 
(Beep Beep Beep Beep Beep)
แหล่งจ่ายไฟ (PowerSupply) หรือเมนบอร์ดมีปัญหา
เสียงบี๊บยาวๆ 1 ครั้ง และสั้นๆ 1 ครั้ง 
(Beep... Beep)
เมนบอร์ดมีปัญหา
เสียงบี๊บยาวๆ 1 ครั้ง และสั้นๆ 3 ครั้ง
(Beep... Beep Beep Beep)
การ์ดจอเสียบไม่แน่น หรือการ์ดจอเสีย
เสียงบี๊บยาวๆ หลายครั้งอย่างต่อเนื่อง 
(Beep... Beep... Beep... Beep... Beep...)
แรมเสียบไม่แน่น หรือหน้าสัมผัสสกปรก
ไม่มีเสียง...
BIOS ล่ม, power supply มีปัญหา, หรือเมนบอร์ดเสีย
ตารางแสดงรหัสเสียงที่พบบ่อยครั้งของไบออส AMI
จำนวนครั้ง
ความหมาย
1
เครื่องทำงานปกติดี, POST ผ่าน
2
หน่วยความจำส่วนแรกสุด (64k) มีปัญหา ตรวจสอบ partition ไม่ผ่าน
3
การทดสอบการอ่าน/เขียนข้อมูลในหน่วยความจำมีปัญหา
4
วงจรตั้งเวลาตัวหลักบนเมนบอร์ดมีปัญหา
5
CPU มีปัญหา
6
ตัวชิปที่ควบคุมการทำงานของ keyboard มีปัญหา
7
เกิดปัญหาในการเปลี่ยน mode การทำงานของ CPU
8
หน่วยความจำบนการ์ดจอมีปัญหา (การ์ดเสีย) หรือการ์ดเสียบไม่แน่น หน้าสัมผัสสกปรก
9
BIOS มีปัญหา
10
CMOS มีปัญหา ไม่สามารอ่านเขียน CMOS ได้
11
หน่วยความจำ cache มีปัญหา
ตารางแสดงรหัสเสียงที่พบบ่อยครั้งของไบออส Phoenix
เสียง
ความหมาย
1-1-3
CMOS มีปัญหาไม่สามารถอ่านเขียน CMOS ได้
1-1-4
BIOS มีปัญหา
1-2-1
วงจรตั้งเวลาตัวหลักบน mainboard มีปัญหา
1-2-2
mainboard มีปัญหา
1-2-3
mainboard มีปัญหา
1-3-1
mainboard มีปัญหา
1-3-3
RAM มีปัญหา
1-3-4
RAM มีปัญหา หรือ mainboard มีปัญหา
1-4-1
RAM มีปัญหา หรือ mainboard มีปัญหา
1-4-2
RAM มีปัญหา
2-1-1 / 2-1-2
RAM มีปัญหา
2-1-3 / 2-1-4
RAM มีปัญหา
3-1-0
chip บน mainboard มีปัญหา
3-1-1 / 3-1-2
mainboard มีปัญหา
3-1-3 / 3-1-4
Interrupt มีปัญหา
3-2-4
chip บน mainboard มีปัญหา (ทำงานผิดพลาด)
3-3-4 / 3-4-0
การ์ดจอมีปัญหา
3-4-1 / 3-4-2
การ์ดจอมีปัญหา
4-2-1
chip บน mainboard มีปัญหา
4-2-2 / 4-2-3
chip ควบคุมการทำงานบน keyboard เสีย
4-2-4
อุปกรณ์การ์ด หรือ mainboard มีปัญหา
4-3-1
mainboard มีปัญหา
4-3-2 / 4-3-3
mainboard มีปัญหา
4-3-4
ไม่สามารถตั้งเวลาได้ แบตเตอรี่บน mainboard หมด
4-4-1
Serial port มีปัญหา
4-4-2
parallel Port มีปัญหา
4-4-3
CPU เสีย


ส่วนล่างของฟอร์ม